|
SLE ในช่วงเวลาที่ผ่านมามักจะมีข่าว อาการและอันตรายจากภัยของโรคภูมิแพ้
ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตอย่างดาราสาวที่มีชื่อว่า "หมอก- ยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่เชื่อว่าเป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการตอบสนองอย่างผิดปกติต่อเชื้อโรคหรือสารเคมีบางอย่าง
ทำให้มีภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อต่างๆ ของตัวเอง จึงจัดเป็น
โรคภูมิแพ้ต่อตัวเอง หรือ ออโตอิมมูน (autoimmune)
ชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับโรคปวดข้อรูมาตอยด์ ที่พบได้บ่อยคือ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อยตามตัว
ปวดและบวมตามข้อต่างๆ ซึ่งโดยมากจะเป็นตามข้อเล็กๆ (เช่น ข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า)
ทั้งสองข้าง คล้ายๆ กับ โรคปวดข้อรูมาตอยด์ (แต่ต่างกันที่ไม่มีลักษณะหงิกงอ
ข้อพิการ) ทำให้กำมือลำบาก
นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมักจะมีผื่นหรือฝ้าแดงขึ้นที่ข้างจมูกทั้ง 2 ข้าง
ทำให้มีลักษณะเหมือนปีกผีเสื้อ เรียกว่า ผื่นปีกผีเสื้อ (butterfly rash)
อาจทำให้ไตอักเสบ ปอดอักเสบ หัวใจอักเสบ หัวใจวาย ไตวาย และอาจเกิดภาวะติดเชื้อร้ายแรงแทรกซ้อนได้ การรักษาโรคเอสแอลอี หากสงสัย ควรแนะนำไปโรงพยาบาล การตรวจเลือดพบว่า อีเอสอาร์
(ESR) สูง,
พบ แอนตินิวเคลียร์แฟกเตอร์
(Antinuclear factor) และ แอลอีเซลล์
(LE
cell) ตรวจปัสสาวะอาจพบสารไข่ขาวและเม็ดเลือดแดง นอกจากนี้ อาจทำการตรวจเอกซเรย์
คลื่นหัวใจ และตรวจคลื่นพิเศษอื่นๆ
การรักษา ในรายที่เป็นรุนแรง ควรให้สเตอรอยด์ เช่น เพร็ดนิโซโลน ขนาด
8-12 เม็ดต่อวันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ หรือหลายเดือน เพื่อลดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ
ข้อแนะนำ 1. โรคนี้สามารถแสดงอาการได้หลายแบบ เช่น มีไข้เรื้อรังคล้ายมาลาเรีย, มีจุดแดงขึ้นคล้ายไอทีพี, บวมคล้ายโรคไต, ชักหรือหมดสติคล้ายสมองอักเสบ, เสียสติ เพ้อ คลั่งคล้ายคนวิกลจริต เป็นต้น ดังนั้นถ้าพบผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นอาการของระบบใด โดยไม่ทราบสาเหตุควรนึกถึงโรคนี้ไว้เสมอ2. โรคนี้ถึงแม้จะมีความรุนแรง แต่ถ้าติดต่อรักษากับแพทย์เป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดอาการแทรกซ้อนและมีชีวิตยืนยาวได้ 3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้อาจป้องกันมิให้อาการกำเริบได้โดยการทำจิตใจให้สบายอย่าท้อแท้สิ้นหวังหรือวิตกกังวลจนเกินไป ส่วนผู้ที่แพ้แดดง่ายควรหลีกเลี่ยงการออกกลางแดด ถ้าจำเป็นต้องออกกลางแดด ควรกางร่ม ใส่หมวก หรือใส่เสื้อแขนยาว ควรพยายามหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เช่น อย่ากินอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด อย่าเข้าใกล้คนที่ไม่สบาย อย่าเข้าไปในที่ๆ มีคนแออัด เป็นต้น และทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบาย ควรรีบไปพบแพทย์ที่เคยรักษา ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร 1. ทำตามคำแนะนำของแพทย์และหมั่นไปรับการตรวจรักษาอย่างสม่ำเสมอ 2. หลีกเลี่ยงการตากแดด ใช้เครื่องสำอางที่ไม่จำเป็นอาจทำให้โรคกำเริบได้ 3. ทำจิตใจให้สงบและทำความเข้าใจในโรคที่เป็นแล้วยอมรับพร้อมทั้งปรับตัวให้เหมาะกับสภาพนั้นก็จะเป็นทางทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น 4. การรักษาโรคนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการติดต่อกับแพทย์โดยสม่ำเสมอทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการรักษาและประเมินผลการรักษาและความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ไป จะได้พิจารณาการรักษาต่อไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 5. พึงเข้าใจว่าโรคนี้เป็นโรคที่เรื้อรังที่จะต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน และโรคนี้อาจจะสงบได้ในที่สุด ที่มา : ตำราการตรวจโรคทั่วไปของ นายแพทย์สุรเกียรติ อาชานานุภาพ ด้วยความปรารถนาดีสำหรับทุกคน |
Design by Kanyapak McManus : CSJOY.COM
INBOX TO CSJOY.COM
Copyright(c) by
CSJOY.COM, All rights reserved.
Identification Number of DBD Thailand 0207314801370